เราจะเรียกผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดต่างๆทั้งหมดที่พูดถึงด้านบนว่า"มอยส์เจอไรเซอร์"ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเติมน้ำและน้ำมันให้แก่ผิว อาจพูดได้ว่า นอกจากปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว การเติมน้ำและน้ำมันให้แก่ผิวถือเป็นสิ่งจำเป็นต่อผิวหนังเหนือสิ่งอื่นใดแต่ความเชื่อที่ว่ามอยส์เจอไรเซอร์ช่วยลบเลือนริ้วรอยได้นั้นเป็นความเข้าใจผิด และหากเราเข้าใจว่าไม่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวชนิดไหนที่ลบริ้วรอยและต้านความแก่ชราได้เราก็จะหยุดการใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟื่อยไปกับการซื้อผลิตภัณฑ์ราคาแพงในอนาคตได้มอยส์เจอไรเซอร์มีหน้าที่ช่วยเพิ่มความนุ่มนวลให้ผิวที่แห้งและริ้วรอย การเติมน้ำและน้ำมันที่ผิวขาดจะช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น แต่ต้องไม่ลืมด้วยว่า การใช้มอยส์เจอไรเซอร์ในปริมาณมากไม่ใช่สิ่งที่ดี
สำหรับคนผิวแห้ง มอยส์เจอไรเซอร์เป็นสิ่งสำคัญมาก ในขณะที่สำหรับคนผิวมันหรือเป็นสิวอาจส่งผลเสียได้ วิธีใช้มอยเจอไรเซอร์อย่างฉลาดคือใช้ในปริมาณที่เหมาะสมตามสภาพผิว บริเวณที่ผิวแห้งให้ใช้ปริมาณมากหน่อย บริเวณที่ผิวไม่ค่อยแห้งก็ใช้น้อยหน่อย หรือบางครั้งไม่ต้องทาก็ยังได้ โดยเฉพาะถ้าผิวมีปัญหา ไม่ทาจะดีกว่าเพราะการใช้มอยส์เจอไรเซอร์มากเกินไปจะทำให้รูขุมขนอุดตัน เป็นสาเหตุหลักของสิวหัวดำทั้งยังขัดขวางการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวหนังรุนแรงมากยิ่งขึ้นจนอาจทำให้คนที่ฝันถึงผิวสวยๆแล้วหมั่นทามอยส์เจอไรเซอร์อย่างสม่ำเสมอผิดหวังได้ จึงต้องระวังไว้ให้ดี ขอเน้นอีกครั้งว่า การใช้มอยส์เจอไรเซอร์จะต้องคำนึกถึงสภาพผิว
เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ตามสภาพผิวและสภาพอากาศ
สภาพผิวจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาและสิ่งแวดล้อม ฉันจะรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้จากผิวตัวเอง ในฤดูร้อนฉันจะไม่รู้สึกตึงผิวเลย แต่พอเข้าฤดูหนาวเวลาลมเย็นๆพัดมาหรือหลังล้างหน้าเสร็จผิวจะรู้สึกตึงตั้งแต่ริมฝีปากเลย พอรู้สึกผิวตึงเมื่อไหร่ ฉันก็จะเริ่มใส่ใจดูแลผิวมากขึ้นด้วยการทาลิปบาร์มและเพิ่มปริมาณมอยส์เจอไรเซอร์ในฤดูหนาว นอกจากจะใช้ชนิดที่มีส่วนประกอบของน้ำแล้ว ยังต้องอุดมด้วยส่วนประกอบของน้ำมันด้วย ผิวจึงจะนุ่มนวล ในทางกลับกันฤดูร้อนซึ่งอากาศทั้งร้อนและชื้น ฉันจะทามอยส์ไรเจอร์ให้น้อยที่สุด และบางครั้งไม่ทาก่อนนอนก็ยังได้ แต่สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของฉันอย่างเดียวเลย ในฤดูร้อนรังสีอัลตราไวโอเลตี่รุนแรงจะดึงน้ำออกจากผิวไปเยอะ จึงต้องเติมน้ำให้ผิวในปริมาณที่เพียงพอด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ชนิดน้ำและโลชั่นโดยต้องระวังไม่ให้ผิวหน้ามันเกินไป
บางครั้งสภาพร่างกายก็ส่งผลต่อสุขภาพผิวด้วย ถ้านอนไม่พอนานๆหรือดื่มน้ำไม่เพียงพอ ร่างกายจะขาดน้ำ ทำให้ผิวหน้าดูแห้งผาก เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องเติมสารอาหารให้ผิวมากหน่อย ปริมาณการใช้มอยส์เจอไรเซอร์ของฉันจะแปรผันไปตามสภาพผิวในช่วงนั้นๆเสมอ ถ้าคุณลองให้ความสนใจและสังเกตดูสักนิด ก็จะดูแลผิวตามสภาพผิวของตัวเองได้ไม่ยาก
ส่วนประกอบในมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อการเลือกใช้อย่างถูกต้อง
อีมอลเลียนท์(Emollient):ช่วยเพิ่มน้ำมันให้ผิวแห้ง
มอยส์เทนเนอร์(Moistener):ช่วยเพิ่มน้ำ
สารบรรเทาอาการแพ้และสารแก้แพ้:ช่วยบรรเทาอาการแพ้บริเวณผิวหนังอันเกิดจากส่วนประกอบที่เป็นน้ำ
สารต้านอนุมูลอิสระ:ช่วยผลักอากาศออกจากผิวและลดผลเสียอันเนื่องมาจากแสงแดด
ถ้ามีส่วนประกอบเหล่านี้ทั้งหมดถือว่าเป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดี แต่ฉันแนะนำให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระมากเๆเป็นพิเศษ
ลองตรวจสอบดูว่ามอยส์เจอไรเซอร์ของคุณมีส่วนประกอบอะไรบ้าง
ส่วนประกอบที่เป็นน้ำมัน
น้ำมันจากพืช(Plant Oil) มิเนรัลออยล์(Mineral Oil) ลาโนลิน(Lanolin) เซียบัตเตอร์(Shea Butter) โกโก้บัตเตอร์(Cacao Butter) ปิโตรลาตัม(Petrolatum) คอเลสเตอรอล เป็นต้น
ส่วนประกอบที่เป็นมอยส์เทนเนอร์
กลีเชอรีน(Glycenn) เลซิติน(Lecithin) โซเดียมไฮยาลูโรเนต(Sodium Hyaluronate) กรดไฮยาลูโรนิก(Hyaluronic Acid) คอลลาเจน(Collagen) มิวโคพอลิแซ็กคาไรด์(Mucopolysaccharide) อิลาสติน(Elastin) โปรตีน กรดแอมิโน คอเลสเตอรอล กลูโคส ชูโครส ฟรักโทส ไกลโคเจน ฟอสโฟลิพิด(Phospohlipid) เป็นต้น
ส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติบรรเทาอาการแพ้และแก้แพ้
รากเบอร์ดอก(Burdock Root) สารสกัดบิชาโบลอล(Bisabolol) ว่านหางจระเข้(Aloe Vera) อัลลันโทนิน(Allantonin) รากชะเอมเทศ(Locorice Root) กรดกลีเซอริทินิก(Glycyritinic Acid) ชาเขียว สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ เป็นต้น
ส่วนประกอบที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ
ซูเปอร์ออกไซด์ดิสมิวเตส(Superoxide Dismutase) ซีลีเนียม(Selenium) วิตามินเอ:เรตินิลพัลมิเทตและเรตินอล(Retinyl Palmitate&Retinol) วิตามินซี:แอสคอบิลพามิเทตและแมกนีเซียมแอสคอบิลพามิเทต(Ascorbyl Palmitate&Magnesium Ascorbyl Palmitate) เบตากลูแคน(Beta-Glucan) วิตามิน:โทโคฟีรอล(Tocopheral) เป็นต้น
ลองพิจารณาส่วนประกอบด้านบนแล้วจดจำไว้ เพื่อใช้เป็นแนวทางเวลาเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ตามสภาพหรือชนิดของผิวสุดท้ายนี้ ฉันขอแนะนำวิธีเพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวดังนี้ หลังล้างหน้า ให้เช็คหน้าด้วยสำลีชุบโทนเนอร์ ทาอายครีมเพื่อดูแลผิวรอบดวงตาซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด จากนั้นเลือกใช้เซรั่มเอสเช้นส์ โลชั่น หรือครีมอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว เพราะทุกชนิดล้วนเป็นมอยส์เจอไรเซอร์เหมือนกันต่างกันเพียงชื่อเรียกเท่านั้น