จั่วหัวซะน่ากลัว จริงๆแล้วมันไม่น่ากลัวขนาดกลัวนั้นหรอกจ้า แต่คนเรานี่แหละที่ทำให้มัน่ากลั๊วววน่ากลัว คุณหมอคะ หนูอยากฉีดหน้าผาก อยากฉีดจมูก อยากฉีดคาง อยากฉีดหน้าผากให้โหนกนูน ไปจนถึงนม ถึง...(พูดออกอากาศไม่ได้) สารพัดที่จะฉีดได้
แต่สาวๆ รู้ไหมว่าฟิลเลอร์จริงๆ แล้วคืออะไร แล้วที่ฉีดเข้าไปจะปลอดภัยหรือเปล่า มีผลข้างเคียงหรือไม่ ดังนั้นขอเล่าถึงเรื่องฟิลเลอร์กันก่อน ซึ่งฟิลเลอร์หรือเรียกเป็นภาษาไทยว่าสารเติมเต็ม (ขอวิชาการหน่อย อย่าเพิ่งหลับหรือวางก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวมีฮาแน่นอน)
ฟิลเลอร์จริงๆ แล้วเป็นชื่อเรียกรวมๆ แต่อันที่จริงแล้วเป็นสารที่ปลอดภัยและผ่าน อย. และยอมรับกันในหมู่แพทย์จะเป็นสารที่เรียกว่า Hyaluronic Acid ซึ่งโดยธรรมชาติจะสลายหมดภายใน 1 ปี เต็มที่ก็ไม่เกินปีครึ่ง สองปี และสลายได้หมดรวมถึงสามารถฉีดสลายได้ด้วยยาสลายที่เรียกว่า Hyaluronidase ซึ่งเรียกได้ว่าปลอดภัย และหากเป็นก้อน ไม่ชอบก็สามารถฉีดสลายได้ ส่วนสารอื่นๆ เช่น Aquamid Aquaderm Aquafilling ซึ่งเป็นสารที่มีชื่อว่า Polyacrylamide เป็นสารที่มีราคาถูกกว่ามากๆ อยู่ได้นานกว่า 2-5 ปี แต่มักเกิดปัญหาไหลย้อน เป็นก้อน ไม่สามารถฉีดสารใดๆไปสลายได้
แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือพวกซิลิโคนเหลว คอลลาเจนเหลว สารเหลวต่างๆ น้ำมันละหุ่ง น้ำมันมะกอก พาราฟิน ที่หมอกระเป๋าสารพัดสรรหามาฉีด พวกนี้ถ้าฉีดเข้าไปก็ทำใจไว้ได้เลยถึงผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ ทีนี้เรามาดูว่าฟิลเลอร์สามารถใช้เติมเต็มอะไรได้บ้าง
ฟิลเลอร์ สารพัดประโยชน์ (อันนี้พูดถึงเฉพาะ Hyaluronic Acid ที่เป็นสารปลอดภัยนะ สารอื่นเอาเป็นว่าอย่าคิดไปฉีดเชียว ผลเสียมันมากกว่าผลดี) สามารถฉีดเติมเต็มได้เกือบทุกบริเวณ เนื่องจากคนเราพอแก่ขึ้น คอลลาเจนตามธรรมชาติมันก็น้อยลง ทำให้เกิดร่องนู่นนี่ ทั้งร่องลึก ร่องตื้น ฟิลเลอร์เป็นสารอุ้มน้ำ ฉีดเข้าไปก็จะเติมเต็มบริเวณร่องให้อิ่มเอิบเต็มขึ้น เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำตา ร่องน้ำหมาก รวมถึงเติมเต็มอวัยวะให้อิ่มเอิบ เช่น ปากอิ่มเหมือนดาราฮอลลีวู้ด เติมหน้าผากให้ดูโหนกนูน เติมขมับที่บุ๋ม ฉีดเสริมจมูก เสริมคาง โดยแต่ละบริเวณก็จะใช้ฟิลเลอร์ที่มีความแจ็งและนิ่มแตกต่างกัน วิธีการฉีด การปั้น ก็แตกต่างกัน เอาเ)้นว่าจะฉีดบริเวณไหนก็ตามให้ดูว่ามันเป็นสารที่เป็น Hyaluronic Acid เท่านั้น เพราะเป็นสารเดียวที่ อย. รับรองว่าปลอดภัย และหากมีปัญหาขึ้นมาก็สามารถสลายได้ด้วยเอนไซม์
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าฟิลเลอร์ที่ขาย และฉีดกันอยู่เป็นตัวไหน
อย่างแรกให้ดูราคา ฟิลเลอร์ที่เป็น Hyaluronic Acid แท้ส่วนใหญ่มีราคาที่สูง คือคิดเป็นซีๆ เลยที่เดียว มักจะฉีดกันในราคาเกือบหมื่นหรือหมื่นกว่าต่อหนึ่งซี ถ้าเจอฟิลเลอร์ซีๆละ 1,000-3,000 บาท บอกได้เลยว่าเป็นสารที่ไม่ใช่ Hyaluronic Acid ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะมีผลข้างเคียงหลังฉีด เช่น สลายไม่หมดเหลือเป็นก้อน ไหลห้อยย้อย
อย่างที่สองคือระยะเวลาที่ฟิลเลอร์อยู่ ยิ่งอยู่นานยิ่งไม่ดีฟิลเลอร์ที่เป็น Hyaluronic Acid แท้ๆ จะอยู่ได้ 1 ปีเต็มที่ไม่เกิน 2 ปี และจะสลายตัวได้หมดไม่ตกค้าง ในขณะที่ตัวอื่นที่เป็นอันตรายมักจะอยู่ได้ 2-5 ปี มีการสลายตัวไม่หมด ตกค้างและเกิดการไหลย้อยไปที่อื่นได้ ที่แย่ที่สุดคือพวกซิลิโคนเหลวอยู่ได้ถึงวันเผากันเลยทีเดียว
อย่างที่สามคือความน่าเชื่อถือของผู้ฉีด ฟิลเลอร์นอกจากจะปลอดภัยไม่ด้วยตัวสารฟิลเลอร์เองแล้ว ผู้ฉีดก็สำคัญที่สุดค่ะ การจะฉีดฟิลเลอร์ให้สวยต้องใช้ศิลปะ ไม่ใช่สักแต่จะฉีดให้มันใหญ่ ให้มันอูม แม้แต่ในกลุ่มแพทย์ด้วยกันเองจะฉีดฟิลเลอร์ได้สวยหรือไม่สวยยังต้องวักกันด้วยประสบการณ์ในการฉีดเลยค่ะ นับประสาอะไรกับหมอกระเป๋า (ซึ่งไม่ใช่หมอจริงๆนะ)
ดังนั้น ควรเลือกฉีดกับหมอจริงๆ และฉีดในสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาต หากพาไปฉีดในรถ ที่คอนโดมิเดียม ไปฉีดให้ถึงบ้านต้องพึงระวังเลยค่ะ ว่านอกจะได้ฉีดสารแปลกปลอมเข้าไปในร่างกายแล้ว คนที่ฉีดยังไม่ใช่หมออีกต่างหาก
หมอเองมักจะเห็นคนไข้หลายคนที่ผ่านการฉีดจากหมอกระเป๋ามามาก ซึ่งทุกคน ย้ำเลยนะคะว่าทุกคน!!! มักจะมาเสียใจภายหลัง หลายคนบ่นว่า หนุไม่น่าฉีดเลย บางคนฉีดหน้าผากไหลมาที่ตา บางคนฉีดสะโพกสุดท้ายไหลย้อยจนถึง...(อุ๊ย! ออกอากาศอีกแล้ว) สุดท้ายต้องไปเอาออก เสียเงินเป็นหมื่นๆแสนๆ บางจุดก็ไม่สามารถเอาออกได้ด้วย ต้องอยู่กับมันจนวันตาย ที่ร้ายที่สุดคือผลข้างเคียงเฉียบพลันที่นำไปสู่การสูญเสียอวัยวะ เช่น ตาบอด ฉีดสะโพกจนฟิลเลอร์ไหลไปอุดตันเส้นเลือดจนเสียชีวิตดังที่มีข่าวให้เห็นกันเนืองๆ ทั้งเสริมฉีดใส่น้องชายจนต้องตัดทิ้งเลยก็มีให้เห็นกันมากมาย ดังนั้น หากตัดสินใจจะฉีดฟิลเลอรืจริงๆ ต้องคิดกันให้มากหน่อย โดยเฉพาะฉีดในปริมาณมากๆ เช่น ถ้าใครอยากฉีดนม หมอแนะนำไปเสริมซิลิโคนเลยดีกว่า หรือถ้าใครอยากฉีดสะโพกก็แนะนำไปเสริมเลย ถ้าไม่อยากก้นหอยย้อยเป็นถุงกาแฟในอนาคต แต่ถ้าอยากฉีดปริมาณมากๆแนะนำใช้ไขมันตัวเองในการฉีด เพราะเป็นธรรมชาติ และมาจากไขมันตัวเอง เนื่องจากหากใช้ฟิลเลอร์แท้ๆ ที่ปลอดภัย หากฉีดเป็นสิบซีๆ คงต้องเสียเป็นแสนๆ ไอ้ที่ฉีดกันถูกก็มักไม่ปลอดภัย สู้ฉีดไขมันตนเองดีกว่า ปลอดภัยกว่ากันเยอะและสามารถฉีดได้แทบจะทุกบริเวณ เช่น ขมับ หน้าผาก แก้ม ร่องต่างๆ ร่องแก้ม ร่องใต้ตา หน้าอก สะโพก
จากที่เล่ามาทั้งหมดนี้หวังว่าผู้ที่อยากจะฉีด สนใจจะฉีดฟิลเลอร์จะได้ความรู้ และเลือกฉีดให้ถูกต้อง จะได้เติมเต็ม แต่ไม่เติมตายนะจ๊ะ เพราะว่าถ้าเจอซิลิโคนเหลวหรือฟิลเลอร์ปลอมเข้าไป มันก็เหมือนตายทั้งเป็นเลยจริงๆ