ลักษณะผิวหน้าของสาวๆแต่ละคน
คนส่วนใหญ่ที่เอิ๊กได้พบและพูดคุยต่าง "เง็ง" (งงและเซ็ง) เพราะไม่รู้ว่าผิวหน้าตัวเองเป็นแบบไหน ต้องดูแลอย่างไร เพราะถ้าดูแลผิวผิดวิธี สุขภาพผิวจะแย่ไปจากเดิมมาก
ก่อนอื่นควรรู้ไว้ว่าผิวคนเราเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตามสิ่งแวดล้อม อายุ สภาพอากาศความเครียด ฮอร์โมน ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ฯลฯ
หัวใจหลักของการบำรุงที่แท้จริงคือ การทำให้ผิวอยู่ในสภาวะชุ่มชื้นหรือมี "น้ำหล่อเลี้ยงผิว" (น้ำมันเคลือบผิว) อย่างเหมาะสมตลอดเวลา
หลักในการแบ่งสภาพผิวด้วยตาเปล่า อาศัยการสังเกตความสมบูรณ์ของน้ำหล่อเลี้ยงผิว หากมีการผลิตน้ำหล่อเลี้ยงผิวพอเหมาะ ไม่มากหรือไม่น้อยจนเกินไปผิวจะแข็งแรง ยืดหยุ่น สุขภาพดี เปล่งปลั่งและแทบไม่มีริ้วรอย
ผิวธรรมดา
ลักษณะ ผิวอวบอิ่มเรียบเนียนละเอียดดูไม่แห้ง ไม่ทัน นุ่มนวลชุ่มชื้น เพราะผิวผลิตน้ำมันได้สมดุลที่สุด
ข้อดี
มองแทบไม่เห็นรูขุมขน ไม่มีปัญหากระ ฝ้า หรือสิว
ข้อแนะนำ
ควรดูแลไม่ให้ขาดความชุ่มชื่นด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยรักษาน้ำหล่อเลี้ยงผิว
การดูแล
-ใช้ครีมบำรุงที่ไม่เข้มข้นหรือเบาบางเกินไป และต้องช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นของผิวระหว่างวันได้
-ทาครีมกันแดดทุกวัน
-สครับผิวอาทิตย์ละครั้ง หรือเดือนละ 2 ครั้ง เพื่อความอ่อนเยาว์และช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป
ลองสังเกตผิวเด็ก เบบี้เหล่านี้คือตัวแทนของผิวธรรมดาที่เรามองเห็นภาพชัดที่สุด
ผิวแห้ง
ลักษณะ
ผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวได้น้อยถึงน้อยมาก หลังล้างหน้าจะรู้สึกหน้าแห้งตึงหรือเป็นขุย
ข้อดี
ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง
ข้อด้อย
-ริ้วรอยมาเร็ว เกิดริ้วรอยบางๆได้ง่าย
-เวลามีสิวจะรักษายากกว่าคนผิวมัน เพราะผิวไวต่อยาบางกลุ่มซึ่งทำให้ผิวยิ่งแห้งแดง และลอก
-ในหน้าหนาว ผิวยิ่งแห้ง ยิ่งระคายเคืองง่าย
การดูแล
-ใช้ครีมบำรุงสำหรับผิวแห้งโดยเฉพาะเนื้อครีมเข้มข้น ให้ความชุ่มชื้นสูง
-ใช้สเปรย์น้ำแร่เพิ่มความชุ่มชื้นก่อนแต่งหน้า
-เลือกครีมกันแดดที่ผสมมอยส์เจอไรเซอร์
-ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่ไม่มีฟอง
-หลังล้างหน้าและซับหน้าหมาดๆให้ทาครีมบำรุงทันที ในช่วงนี้ผิวจะเก็บความชุ่มชื้นจากครีมและป้องกันการระเหยของครีมได้ดีกว่าผิวที่แห้งแล้ว
-เลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Sodium AHA BHA น้ำหอม แอลกอฮอล์ สีสังเคราะห์ ลาโนลิน สารกันเสียและสาร PABA
-หน้าหนาวต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษ
-ทานอาหารเสริมประเภทน้ำมันปลาที่ช่วยทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และโอเมก้าเพื่อช่วยลดการอักเสบหรือผื่นแพ้
-ดื่มน้ำมากๆ
ผิวมัน
ลักษณะ
ผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวมากเกินไป ผิวจะเริ่มมันหลังล้างหน้าเพียง 2 ชั่วโมง
ข้อดี
เกิดริ้วรอยยากกว่าคนผิวแห้ง ไม่ค่อยแพ้หรือระคายเคืองง่าย
ข้อเสีย
-เกิดสิวอุดตัน สิวเสี้ยน สิวอักเสบและสิวหัวดำง่าย โดยเฉพาะช่วงจมูก
-รูขุมขนกว้าง มองเห็นชัดเจน
การดูแล
-หลังล้างหน้า เช็ดผิวหน้าด้วยโทนเนอร์ เพื่อควบคุมความมัน
-ทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA เพื่อผลัดเซลล์ผิว
-ทาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ BHA เพื่อลดความมัน และละลสยไขมันอุดตันในรูขุมขน
-ทายากลุ่มกรดวิตามิน เพื่อลดสิวเสี้ยน สิวอุดตัน
-ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุคุณสมบัติเป็น Oli Control, Oil-free, Non-comodogenic
-หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Mineral Oil เพราะจะทำให้ผิวอุดตัน
-เลือกครีมบำรุงที่มีเนื้อบางเบา เช่น โลชั่น เซรั่ม
-หน้าร้านต้องดูแลเป็นพิเศษ เพราะ ผิวจะผลิตน้ำมันมากเป็นพิเศษ
ผิวผสม
ลักษณะ
มีทั้งบริเวณที่เป็นผิวแห้งและผิวแห้ง ผิวตรงแก้มค่อนข้างแห้ง มีโอกาสลอกเป็นขุย ส่วนจมูกและหน้าผากเป็นผิวมัน เกิดสิวได้ง่าย
ข้อดี
ไม่มีปัญหารูขุมขนกว้างในบริเวณที่แห้ง เกิดริ้วรอยยากบริเวณผิวมัน
ข้อเสีย
ดูแลยากกว่าทุกสภาพผิว เพราะต้องดูแลทั้งปัญหาผิวแห้งและมันการเลือกใช้ครีมหรือยาจะยากกว่าผิวแบบอื่นๆ
การดูแล
-ใช้ผลิตภัณฑ์ 2 แบบ คือส่วนที่แห้ง ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแห้ง ผิวส่วนที่มันใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผิวมัน แต่ถ้าอยากใช้ชนิดเดียว ให้ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับ "ผิวแห้งถึงผิวธรรมดา"
-หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกฮอล์ Mineral Oil สีสังเคราะห์ ลาโนลิน สารกันเสีย สารPABA
ผิวแพ้ง่าย
ลักษณะ
ผิวที่มีความสามารถในการปกป้องตัวเองน้อย ผิวอักเสบง่าย สุขภาพผิวอ่อนแอ
ผิวแพ้ง่ายเกิดได้กับทุกสภาพผิว เหมือนมีนามสุกลต่อท้ายคือ ผิวแห้ง-ผิวแพ้ง่าย, ผิวธรรมดา-แพ้ง่าย, ผิวมัน-แพ้ง่าย และผิวผสม-แพ้ง่าย ดังนั้นนอกจากดูแลผิวให้เหมาะสมตามข้อแนะนำข้างต้นแล้ว ต้องเพิ่มการดูแลผิวที่แพ้ง่ายเข้าไปด้วย
ผิวแพ้ง่ายเกิดชึ้นเมื่อเซลล์ผิวหนังไม่แข็งแรงจนเสียสมดุลในการผลิตน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ทำให้ผิวขาดปราการในการปกป้องตัวเอง และไวต่อปัจจัยที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว ดังนี้
-ผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ผิวหน้าระคายเคืองหรือรุนแรง เช่น เรื่องสำอาง ยารักษาผิวหรือทายาละลายสิวอุดตันทิ้งไว้นาน
-การผลัคเซลล์ผิว ขจัดขี้ไคล หรือสครับหน้ามากเกินไป
-การล้างหน้าบ่อย แช่น้ำนาน
-สภาพแวดล้อม เช่น อากาศ
-ความเครียด ฮอร์โมน และระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
-ใช้ยาสเตียรอยด์ติดกันเป็นระยะเวลานาน
การดูแล
-ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่เคลือบผิวไว้เสมือนเลียนแบบน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติ
-ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่าอ่อนโยนปลอดภัยสำหรับผิวแพ้ง่าย
-ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่เกิน 2 ชนิด
-หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกฮอล์ สีสังเคราะห์ ลาโนลิน สารกันเสีย สารPABA
-กินแมกนีเซียม ปลา และหอย เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันให้ผิวหนังแข็งแรง