คิ้ว มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงอวัยวะต่างๆบนใบหน้าของคนเรา นักสุนทรียศาสตร์ชาวอังกฤษ ได้กล่าวไว้ว่า "มันคือความสวยงามที่กลมกลืนของสัดส่วนที่พอเหมาะ" คิ้วเปรียบเสมือนกรอบของดวงตา ความสัมพันธ์ของสองสิ่งนี้คล้ายกับความสัมพันธ์ของกรอบรูปกับภาพวาด ภาพวาดที่สวยงามต้องคู่กับกรอบรูปที่เหมาะสมถึงจะสามารถทำให้ภาพวาดนั้นมีจุดเด่นและแสดงให้เห็นถึงความสวยงามของภาพวาดนั้นได้ คิ้วทั้งสองข้างที่มีความสวยงามนั้นต้องมีความสอดคล้องของความหนาของเส้น เฉดสีที่เหมาะสม หากจะเปรียบความสัมพันธ์ของคิ้วกับดวงตาแล้ว ก็คล้ายกับใบไม้สีเขียวของดอกโบตั๋นที่ทำให้ดอกนั้นเพิ่มความสวยงามและสดใสมากขึ้น ทำให้กลมกลืนกับโครงสร้างของใบหน้ามากขึ้น เพิ่มความคมชัดและสวยงามมากขึ้น แต่หากมองในมุมกลับกัน หากความยาวของคิ้วไม่สม่ำเสมอก็จะทำให้ความสวยงามน้อยลงหรือลดลง สาเหตุเนื่องจากความคิดของคนเรานั้น มักจะคิดว่าการมีรูปร่างของคิ้วที่สวยงามเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เทคนิคการสักคิ้วมีในยุค 80โดยการแนะนำของ นางสาว เจิ้ง หมิงหมิง โดยรูปแบบของการสักนั้นจะเป็นไปภายใต้การสักกับผิวหนังจริง แบบถาวร ส่วนเทคนิคการตกแต่งคิ้วนั้นปรากฏขึ้นในระหว่างปี ค.ศ 1992-1995 , ปี ค.ศ 1997ถึงจะเข้ามายังประเทศจีน รูปแบบที่เข้ามาครั้งแรกเป็นการสักแบบเข็มนุ่มและการกลับเข็มระหว่างชั้นฐานของกระดูกสันหลัง การสักแบบกึ่งถาวรจะมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อครบ 5-6ปี เริ่มต้นแนวคิดและเทคนิคนี้ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก การพัฒนาเทคนิคการตกแต่งคิ้วไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น ช่วงเวลานั้นแนวคิดเทคนิคการตกแต่งคิ้วยังเป็นแค่การแต่งหน้าแบบหนึ่งที่เป็นแบบกึ่งถาวร พอครบ 5ปี สีก็จะค่อยๆจางและหายไปในที่สุด เวลาเป็นสิ่งยืนยันว่าในการปฏิบัติทางเทคนิคและแนวคิดนี้ได้รับผลของการแตกต่างความเสถียรของเม็ดสี ความสามารถกลืนเซลล์ของชั้นผิวหนังแท้ มีผลกระทบที่เกิดจากหลายปัจจัยที่ได้รับจากการทำศัลยกรรมคิ้ว ไม่ใช่แค่จางหายไปแต่มันจะเลือนหายไป แต่หลังจากที่เม็ดสีเมลานิน ถูกเซลล์ครอบคลุมแล้วจะค่อยๆจางลงไปเรื่อยๆ แต่เม็ดสีแดงไม่ได้ถูกครอบคลุมจึงทิ้งสารตกค้างไว้ที่ผิวหนัง รูปแบบคิ้วสีน้ำตาลทั้งสองแบบ ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้าเกิดความเจ็บปวดทางด้านจิตใจแล้วแต่ในขณะเดียวกันยังส่งผลกระทบต่อการพัฒนาศิลปะการสักอีกด้วย ดังนั้นเพื่อให้ได้ลักษณะที่โดดเด่น คิ้วที่เป็นธรรมชาติ ดูเหมือนมีชีวิตชีวาออกมานั้น ไม่เพียงแต่ต้องอาศัยการออกแบบลักษะคิ้วเท่านั้น ยังต้องอาศัยการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ด้านเทคนิคการสัก ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพของสี การเรียงตามตัวธรรมชาติของขนคิ้ว ก็ควรจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน